ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้านั่งจิบชา กาแฟ
ที่ม้าหินอ่อนหลังบ้านเคล้าบรรยากาศขมุกขมัวครึ้มฟ้าครึ้มฝน สิ่งรอบตัวดูเงียบสงบ
สูดอากาศยามเช้าช่างสดชื่นเหลือเกิน เช้านี้ตั้งใจจะเขียนบทความดี ๆ มานำเสนอแต่ก็คิดไม่ออกสักที
เอาหละคิดไม่ออกก็นั่งจิบกาแฟถ้วยโปรดชมบรรยากาศรอบบ้านไปเรื่อย ๆ นี่หละ
ตบท้ายด้วย”จิบชา”ร้อน ๆ
ให้สมองมันตื่นตัว ว๊าว ! สุดยอด คุณรู้มั๊ยว่าจิบชาร้อน ๆ
ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยดีแท้ ผมเคย Search ข้อมูล
ในอินเทอร์เน็ตเรื่องการดื่มชา ว่ากันว่าการจิบชามีประโยชน์ต่อหัวใจของคนเรามากกว่าการดื่มน้ำเพราะในน้ำชา
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระชื่อ”ฟลาโวนอยด์”และยังมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งและต่อ ต้านโรคมะเร็งในบางชนิดเช่นมะเร็งลำไส้
ลดอาการฟันผุ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกและมีสรรพคุณคือทำให้อารมณ์แจ่มใสเพราะในน้ำ
ชามีสารคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบอยู่ มิน่าหละ ! “จิบชา” ทีไร จิตใจมันผ่อนคลาย ตลอด
(อุปทานหรือเปล่านะ)
ทุกอย่าง ในโลกที่บิดเบี้ยวใบนี้ มีทั้งคุณและโทษ การดื่มน้ำชาก็ให้โทษเช่นกันและไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง จะทำให้น้ำชามีสีคล้ำรสชาติฝาดเพราะกรดแทนนิน (Tannin) สูง ซึ่งมีผลต่อกระเพาะอาหารและสำไส้ซึ่งดูดสารอาหารไม่ได้เต็มที่นั่นเอง สำหรับคุณประโยชน์ใบชามีสารอาหารชีวภาพมากกว่า 200 ชนิดเช่นสารคาเทชิน (Catechin) มีฤทธิ์ดักจับอนุมูลอิสระและกรดอะมิโนแอล-ธีอะนิน (Theanine) ในใบชามีคุณสมบัติกระตุ้นคลื่นอัลฟ่าในสมองสัมพันธ์กับเส้นประสาททำให้รู้สึกจิตใจผ่อนคลาย มีสมาธิในสิ่งที่ทำ
ปัจจุบันคนไทยจำนวนไม่น้อยหันมานิยมจิบชาเพิ่มมากขึ้น สังเกตได้จากตามซุปเปอร์มาเก็ตหรือในร้านค้าตามท้องตลาดมักจะมีชายหลาย ยี่ห้อวางจำหน่ายให้เลือกสรรพคุณและราคาที่แตกต่างกัน เมื่อเขียนมาถึงตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงหลักคำสอนของพุทธศาสนาในการ ดำเนินชีวิตหรืออะไรก็แล้วแต่ให้ยึดทางสายกลาง (มัชฌิมา)เป็นแนวทางปฏิบัติ เฉกเช่นการดื่มชาหรือจิบชาก็เหมือนกัน รู้หลักการบริโภคก็ให้คุณ มากเกินไปก็ให้โทษ ฉันใดก็ฉันนั้น แต่ที่รู้มา”จิบชา”ร้อน ๆ เข้มข้นมีดีต่อสุขภาพซึ่งจะได้ประโยชน์จากสารอาหารในใบชามากกว่าชาที่ชงแบบ เย็น อ้าว ! เผลอร่ายมาซะยาวไม่รู้ตัว กรดอะมิโนแอล-ธีอะนิน (Theanine) คงออกฤทธิ์ซะแล้ว “จิบชา-กาแฟ”ร้อน ๆ รสชาติกลมกล่อมเช่นนี้ “ให้ตายเถอะ!! โรบิน” บอกตรง ๆ ถึงตรงนี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น